วันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นองค์ปาฐกในงาน Thailand - China Investment Forum 2025 ณ โรงแรม Kerry Pudong นครเซี่ยงไฮ้ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทยหรือ BOI โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 คน 

นางสาวปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา กล่าวต้อนรับโดยย้ำความสัมพันธ์ไทย - จีนที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2568 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น

รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวปาฐกถานำเสนอนโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาลไทย กล่าวคือ “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว” ครอบคลุม 5 เสาหลัก ได้แก่ (1) กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว (2) ลดภาระหนี้ประชาชน (3) เพิ่มสภาพคล่อง SMEs (4) เพิ่มการออมของประชาชน และ (5) ลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งจีนเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของไทยในการพัฒนาและลงทุนในอุตสาหกรรมขั้นสูง การยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนาทุนมนุษย์ โดยยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่จะร่วมมือ ดูแล และสนับสนุนผู้ประกอบการจีน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการลงทุนรวมถึงผ่านโครงการ Thailand Fast Pass ที่จะช่วยให้การลงทุนในไทยสะดวกยิ่งขึ้น

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI นำเสนอจุดแข็งและความพร้อมในการรองรับการลงทุนต่างชาติของไทย ตลอดจนระบบนิเวศและมาตรการสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 ด้าน ได้แก่ (1) Bio-Circular-Green (BCG) Economy (2) ยานยนต์และ EV (3) อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (4) ดิจิทัล และ (5) การเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ตลอดจนมาตรการส่งเสริมอื่น ๆ ทั้งในเรื่องภาษี เงินอุดหนุน แรงงาน การจัดหา supplier การตรวจลงตรารวมถึง Long-Term Resident (LTR) Visa รวมทั้งการให้บริการนักลงทุนต่างชาติอย่างครบวงจรในรูปแบบ One Stop Service

ในงานดังกล่าว นาง Liu Hongxia ผู้บริหารศูนย์ Commercial Service Center ของ China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) ร่วมให้ข้อมูลในเรื่องแนวปฏิบัติของผู้ประกอบการจีนในการไปลงทุนในไทยและต่างประเทศ ขณะที่นาย Freddy Zhang ประธานบริษัท Micro-Tech Medical Technology (Thailand) Co., Ltd. ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เการลงทุนในไทยที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนจีนรายอื่น ๆ

จีนเป็นนักลงทุนอันดับต้นในไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนในไทยกว่า 2,400 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 130,000 ล้านหยวน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม EV อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานสะอาด เครื่องจักรกล และการผลิตอัจฉริยะ